ความปลอดภัยในสถานที่ทำงานเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมและงานที่มีความเสี่ยงต่างๆ การใช้อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment: PPE) อย่างถูกต้องและเหมาะสมตามมาตรฐานที่กำหนด จะช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
จากข้อมูลในภาพของ BJ brothers & son ได้รวบรวมอุปกรณ์เซฟตี้ที่สำคัญจำนวน 6 รายการ ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ควรมีและปฏิบัติตามมาตรฐาน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. หมวกนิรภัย (Safety Helmet)
หมวกนิรภัยเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยป้องกันศีรษะจากการกระแทก วัตถุตกหล่น หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการผลิต การก่อสร้าง หรือการขนถ่ายวัสดุ หมวกนิรภัยต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 368-2554 เพื่อรับรองคุณภาพในการป้องกันอันตรายจากแรงกระแทก
2. แว่นตานิรภัย (Safety Glasses / Goggles)
แว่นตานิรภัยเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันดวงตาและใบหน้าจากฝุ่น เศษวัสดุ หรือสารเคมีที่อาจกระเด็นเข้าตา การเลือกแว่นตาที่มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก และผ่านการรับรองมาตรฐานจะเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะในงานตัด เจียร หรือพ่นสารเคมี
3. ถุงมือนิรภัยกันบาด (Cut-resistant Gloves)
ถุงมือชนิดกันบาดมีความสำคัญในงานที่เกี่ยวข้องกับของมีคม กระจก หรือโลหะ โดยในภาพระบุว่าเป็นถุงมือที่มีมาตรฐาน EN388 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลด้านการป้องกันการบาดระดับ 5 ผลิตจากเส้นใย HPPE เคลือบไนไตรล์ สามารถกันน้ำมันและสารเคมีได้ในระดับหนึ่ง จึงเหมาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสวัสดุอันตราย
4. รองเท้าเซฟตี้ (Safety Footwear)
รองเท้านิรภัยเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ช่วยป้องกันเท้าจากแรงกระแทก วัตถุตกหล่น และของมีคมตามพื้น โดยต้องผ่านมาตรฐาน มอก. 523-2554 หรือเทียบเท่ากับมาตรฐานสากล EN ISO 20345 เพื่อให้มั่นใจว่าโครงสร้างของรองเท้ามีความทนทาน พื้นกันลื่น และสามารถป้องกันอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. หน้ากากนิรภัย (Respirators / Face Shield)
หน้ากากนิรภัยเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในงานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นละออง สารเคมี หรือไอระเหยที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ โดยต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 368-2554 เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของตัวกรอง หน้ากากชนิดนี้เหมาะสำหรับงานเชื่อม งานพ่นสี หรือทำงานในพื้นที่อับอากาศ
6. เสื้อชูชีพ (Life Jacket / Personal Flotation Device)
เสื้อชูชีพเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานใกล้น้ำ หรือต้องเดินทางทางเรือ เพื่อป้องกันการจมน้ำและเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต ในภาพระบุว่าเสื้อชูชีพต้องผ่านมาตรฐาน มอก. 3149-2564 ซึ่งรองรับการลอยตัวระดับ 50 (BUOYANCY AIDS LEVEL 50) ถือว่าเป็นมาตรฐานที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป