ถังดับเพลิงแต่ละประเภทในงานอุตสาหกรรม แต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสีย อย่างไรบ้าง

ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักร สารเคมี และไฟฟ้าเยอะ ไฟไหม้คือภัยร้ายที่มาแบบไม่บอกลา ถังดับเพลิงจึงเป็นฮีโร่ตัวจริง แต่ถังแต่ละประเภทก็มีจุดเด่นจุดด้อยต่างกัน วันนี้มาดูกันแบบง่าย ๆ ว่าถังผงเคมีแห้ง CO2 โฟม น้ำ และ Clean Agent เหมาะกับงานไหน ข้อดีอย่างไม่ทิ้งคราบของ CO2 กับข้อเสียฟุ้งกระจายของผงเคมีแห้ง มันต่างกันยังไงในงานเสี่ยงภัย ช่วยให้เลือกใช้ได้ถูกต้อง ไม่พลาด!

1. ถังผงเคมีแห้ง (ABC Dry Chemical) – ถังยอดฮิต แต่ฟุ้งกระจาย

ข้อดี:

  • ดับไฟได้หลายคลาส A (ไม้ ผ้า), B (น้ำมัน), C (ไฟฟ้า) – เหมาะกับโรงงานที่มีวัสดุผสมปนเป
  • ราคาถูก หาซื้อง่าย ใช้งานง่าย แค่บีบแล้วฉีด
  • ดับไฟเร็ว เพราะผงตัดออกซิเจนและยับยั้งปฏิกิริยาเคมี

ข้อเสีย:

  • ฟุ้งกระจายมาก ทิ้งคราบผงขาวปกคลุมเครื่องจักร – ล้างยาก อาจทำให้อุปกรณ์เสียหาย 30-50%
  • ไม่เหมาะกับพื้นที่ปิด เพราะผงฟุ้งทำให้หายใจลำบาก
  • ในงานเสี่ยงภัย เช่น โรงงานเคมี ผงอาจผสมกับสารเคมีอื่น ทำให้เกิดปฏิกิริยาไม่คาดคิด

ตัวอย่าง: ในโรงงานประกอบรถยนต์ ถัง ABC ดับไฟจากน้ำมันรั่วได้ดี แต่คราบผงอาจทำให้สายการผลิตหยุดนาน 1-2 วัน

2. ถัง CO2 (Carbon Dioxide) – ไม่ทิ้งคราบ แต่เย็นจัด

ข้อดี:

  • ไม่ทิ้งคราบสกปรก – เหมาะกับงานอุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักรแพง เช่น ห้องเซิร์ฟเวอร์หรือโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ ฉีดแล้วสะอาดเหมือนเดิม
  • ดับไฟคลาส B (ของเหลว) และ C (ไฟฟ้า) ได้ดี เพราะก๊าซลดออกซิเจนและระบายความร้อน
  • ไม่นำไฟฟ้า – ปลอดภัยกับอุปกรณ์ไฟฟ้า

ข้อเสีย:

  • เย็นจัด (-79°C) อาจทำให้มือชาหรือแผลไหม้เย็นถ้าฉีดใกล้เกินไป
  • ใช้งานได้สั้น 10-20 วินาทีต่อถัง และไม่เหมาะกับไฟคลาส A เพราะไฟอาจคุขึ้นมาอีกถ้าออกซิเจนกลับมา
  • ในงานเสี่ยงภัย เช่น ห้องปิดสนิท ก๊าซอาจทำให้ออกซิเจนน้อย หายใจลำบาก

ตัวอย่าง: ในห้องคอมพิวเตอร์โรงงาน ถัง CO2 ดับไฟจากสายไฟได้โดยไม่ทิ้งคราบ แต่ต้องอพยพคนออกก่อนเพราะก๊าซแทนที่อากาศ

3. ถังโฟม (AFFF Foam) – ปกคลุมดี แต่ล้างยาก

ข้อดี:

  • สร้างชั้นโฟมปกคลุมเชื้อเพลิง ดับไฟคลาส B (น้ำมัน) ได้ดีเยี่ยม ลดการลุกลาม 50-70%
  • เหมาะกับงานอุตสาหกรรมที่มีของเหลวไวไฟ เช่น โรงงานน้ำมันหรือปั๊มแก๊ส
  • ดับไฟคลาส A ได้บ้าง ถ้าโฟมผสมน้ำ

ข้อเสีย:

  • ล้างออกยาก สร้างคราบลื่นบนพื้น – เสี่ยงล้มในโรงงาน
  • ไม่เหมาะกับไฟฟ้า (คลาส C) เพราะโฟมนำไฟฟ้า
  • ในงานเสี่ยงภัย เช่น โรงงานเคมี โฟมอาจผสมกับสารอื่น ทำให้เกิดฟองพิษ

ตัวอย่าง: ในโรงงานกลั่นน้ำมัน ถังโฟมปกคลุมพื้นน้ำมันรั่วได้ดี แต่ต้องล้างพื้นให้สะอาดหลังดับไฟ

4. ถังน้ำ (Water) – ถูกแต่จำกัด

ข้อดี:

  • ราคาถูกที่สุด ดับไฟคลาส A (ไม้ ผ้า) ได้ดี โดยลดอุณหภูมิ
  • ไม่เป็นพิษ ปลอดภัยกับมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

ข้อเสีย:

  • ห้ามใช้กับคลาส B (น้ำมัน) เพราะน้ำจะทำให้น้ำมันกระเด็นลุกลาม
  • ไม่เหมาะกับไฟฟ้า (คลาส C) เพราะนำไฟฟ้า
  • ในงานอุตสาหกรรม เช่น โรงงานไฟฟ้า ถังน้ำอาจทำให้เครื่องจักรเสียหายหนัก

ตัวอย่าง: ในโกดังไม้ ถังน้ำดับไฟได้ดี แต่ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีเครื่องจักรไฟฟ้า

5. ถัง Clean Agent (Halotron) – สะอาดแต่แพง

ข้อดี:

  • ไม่ทิ้งคราบ ดับไฟคลาส A B C ได้ดี ไม่นำไฟฟ้า
  • เหมาะกับงานอุตสาหกรรมไฮเทค เช่น ห้องเซิร์ฟเวอร์

ข้อเสีย:

  • ราคาแพงกว่า 2-3 เท่า
  • ใช้งานสั้น และอาจมีไอพิษเล็กน้อยในห้องปิด

ตัวอย่าง: ในห้องควบคุมโรงงาน ถัง Clean Agent ดับไฟจากแผงวงจรได้โดยไม่ทำให้อุปกรณ์เสียหาย

สรุปเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย

  • ผงเคมีแห้ง: ดีที่ดับได้หลายประเภท แต่เสียที่ฟุ้งกระจาย 30% ของพื้นที่
  • CO2: ดีที่ไม่ทิ้งคราบ แต่เสียที่เย็นจัดและใช้งานสั้น
  • โฟม: ดีที่ปกคลุมน้ำมัน แต่เสียที่ล้างยาก
  • น้ำ: ดีที่ถูกและปลอดภัย แต่จำกัดเฉพาะคลาส A
  • Clean Agent: ดีที่สะอาด แต่เสียที่แพง

ในงานอุตสาหกรรม เลือกถังตามจุดเสี่ยง เช่น CO2 สำหรับไฟฟ้า ผงเคมีสำหรับทั่วไป ถัง ผ่านมาตรฐาน NFPA 10 ทุกประเภท ช่วยให้โรงงานของคุณปลอดภัย สบายใจ!

 

#ถังดับเพลิง #อุตสาหกรรม #ข้อดีข้อเสีย #BJBrothers #ดับเพลิง #FireExtinguisher

แชทผ่านไลน์