เปรียบเทียบสายดับเพลิง: วัสดุและการใช้งานที่แตกต่าง

สายดับเพลิงคืออุปกรณ์สำคัญที่ช่วยส่งน้ำหรือโฟมไปควบคุมไฟในงานดับเพลิง แต่สายที่ทำจากวัสดุต่างกัน เช่น ยางและผ้าใบ มีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน แล้วควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับงาน? มาดูการเปรียบเทียบแบบง่าย ๆ กัน!

สายดับเพลิงยาง: ทนทานและกันน้ำ
สายดับเพลิงที่ทำจากยางสังเคราะห์ มีความทนทานสูงและทนต่อความร้อน สารเคมี และการเสียดสี จุดเด่นคือกันน้ำได้ดีและไม่ดูดซับของเหลว ทำให้เหมาะกับงานที่มีน้ำมันหรือสารเคมี เช่น การดับเพลิงในโรงงานเคมีหรือปั๊มน้ำมัน สายยางมีน้ำหนักปานกลางถึงหนัก แต่แข็งแรง ทนแรงดันสูงได้ถึง 15 บาร์ เหมาะสำหรับเพลิงขนาดใหญ่ที่ต้องการน้ำปริมาณมาก อย่างไรก็ตาม สายยางอาจแข็งกว่าผ้าใบ ทำให้ม้วนเก็บยากกว่าเล็กน้อยในพื้นที่จำกัด

สายดับเพลิงผ้าใบ: เบาและยืดหยุ่น
สายผ้าใบ เช่น โพลีเอสเตอร์เคลือบ PVC มีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่นสูง ทำให้เคลื่อนย้ายและม้วนเก็บง่าย เหมาะกับงานที่ต้องลากสายในพื้นที่แคบ เช่น ภายในอาคารหรือซากปรักหักพัง สายผ้าใบมักเคลือบสารทนไฟ ช่วยป้องกันความร้อนและการฉีกขาด แต่ข้อเสียคืออาจดูดซับน้ำได้ง่ายกว่า ทำให้ต้องตากให้แห้งดีเพื่อป้องกันเชื้อรา สายผ้าใบเหมาะกับเพลิงขนาดเล็กถึงปานกลาง เช่น ไฟในสำนักงานหรือบ้านพัก

ความเหมาะสมกับงาน

  • งานดับเพลิงหนัก: สายยางเหมาะกับงานในโรงงานหรือพื้นที่ที่มีความร้อนสูงและสารเคมี เพราะทนต่อสภาพรุนแรงและไม่ซึมของเหลว

  • งานในพื้นที่จำกัด: สายผ้าใบเหมาะกับงานที่ต้องการความคล่องตัว เช่น การดับเพลิงในอาคาร เนื่องจากน้ำหนักเบาและยืดหยุ่น

  • งานทั่วไป: สายผ้าใบเคลือบสารทนไฟเป็นตัวเลือกที่หลากหลาย เพราะราคาย่อมเยากว่ายางและใช้งานได้ในหลายสถานการณ์

มาตรฐานความปลอดภัย
ทั้งสายยางและผ้าใบจาก BJ Brothers ผ่านมาตรฐาน NFPA 1961 หรือ EN 14540 รับประกันความทนทานต่อแรงดันและความร้อน ช่วยให้มั่นใจในประสิทธิภาพ

การเลือกสายดับเพลิงขึ้นอยู่กับสภาพงาน สายยางเหมาะกับงานหนัก ส่วนสายผ้าใบเหมาะกับงานที่ต้องการความคล่องตัว สายมีตัวเลือกหลากหลาย ช่วยให้คุณควบคุมเพลิงได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์!

แชทผ่านไลน์